Editor's Rating
เดินทางสะดวก สกีรีสอร์ทดีงามค่ะ อาหารเช้าเริ่ดมาก เนื่องจากรีสอร์ทมีพื้นที่กว้างขวางมาก ขอหักคะแนนนิดหน่อยที่ต้องรอ Shuttle Bus นานในช่วงเวลาเช้า
วันนี้ มารีวิวที่พัก สกีรีสอร์ทที่เราเพิ่งไปมาเมื่อเดือน มกราคมที่ผ่านมา เป็นช่วงที่ cold wave เข้า อากาศหนาวสุดๆ ในรอบหลายสิบปีของญี่ปุ่น หิมะท่วมมากกกกกกกกกกกก โรงแรมในเครือ Prince ที่เราจะรีวิวในวันนี้นั้น เป็นโรงแรมใหญ่ในเครือ Seibu ซึ่งมีหลายแห่งมากก แต่ละที่ ทำเลดีๆ ทั้งนั้น เอาใจทั้งขาช็อบ และคอเล่นสกี ไม่ว่าจะเป็นชินจุกุ (โลเคชั่นดีสุดๆ อยู่ใกล้กับห้าง Pepe) หรือ Naeba Prince Hotel ที่อยู่ติดกับลานสกี
ส่วน Prince Karuizawa Hotel ที่เรากำลังจะรีวิวนี้ มีลานสกีถึง 2 ลานภายในบริเวณ และมีห้างสรรพสินค้า Outlet ติดกับสถานี JR สามารถเดินช็อบปิ้งได้สะดวกสบาย ได้ครบทุกรสชาติ
วิธีการเดินทาง ไป Prince Karuizawa Hotel : JR Tokyo Wide Pass แบบ 3 วัน ราคา 10,000 เยน (เด็ก 5,000 เยน ) สามารถเดินทางได้ ด้วยรถไฟชินคันเซน ใช้เวลา 59 นาที ตรงดิ่งจาก Ueno ลงสถานี JR Karuizawa
Official Website : Prince Karuizawa
อาณาบริเวณของ รร. นั้นแบ่งเป็น รร. ย่อยๆ ออกไปอีกค่ะ
- Karuizawa Prince Hotel East เป็นตัวตึก อยู่บริเวณ ฝั่งด้านบนของแผนที่ใกล้ๆ Villa )
- The Prince Villa Karuizawa เป็นบ้านหลังๆ ไฮโซ หลังนึง 8-90,000 เยน
- Karuizawa Prince Hotel West เป็นตัวตึก อยู่บริเวณด้านล่างของแผนที่ค่ะ อันนี้เป็นโซนที่เราเคยพักครั้งก่อนหน้านี้
- Prince Cottage เป็นบ้านหลังๆ ที่กำลังจะรีวิวให้ดู ราคาไม่แรงมากเท่า Villa
- The Prince Karuizawa
คือ จริงๆ ไปพักที่นี่มา 2 ครั้งแล้วอะ นอนฝั่ง West ตรงตัวตึกใหญ่ ครั้งนึง ส่วนครั้งล่าสุดที่ไปมา นอน Cottage เป็นกระท่อมไม้หลังๆ กลางป่า
จากสถานี JR จะมี Shuttle Bus สีเขียวและสีน้ำตาล วิ่งวนไปตามจุดต่างๆ ของ Resort ซึ่งแบ่งเป็นโซนๆ ป้ายก็ถี่มากกกกกกก ถี่ไม่รู้จะถี่ไปไหน บางป้าย ห่างกันแบบว่า เดินสัก 100 ก้าวถึงอะ แต่ตอนหนาวๆ หิมะตกนี่ ดูไม่จืดเลยนะ อยากจะให้ป้ายมาเกยหน้าบ้าน เราจะไปจุดไหน ให้ลองดูว่า ขึ้นสายไหน ใกล้กว่ากัน ไป West รึ East บางทีต้องไปนั่งวนรอบโลก บวกไปอีก 15-20 นาที แต่ก็ดีกว่ายืนตากอากาศหนาวๆ อยู่ด้านนอก เราก็ยอมมม
รถบัสมาจอดส่งบริเวณล็อบบี้ รร. และวนเวียนไปตามจุดต่างๆ
บ่อออนเซนอยู่ใกล้ฝั่ง East 7:00 A.M. to 11:00 P.M โดย มีตึกแยกออกไป ต้องเสียค่าเข้าสำหรับผู้ใหญ่
ประสบการณ์ส่วนตัวของเราคือ
ไปถึงตอนเย็น ฝากกระเป๋าไว้ที่ล็อบบี้ เค้าจะเอาไปส่งให้ที่บ้าน เดินออกมา จะขึ้นรถบัสไป Outlet เพื่อหาข้าวเย็นกิน แต่รถคนแน่นมากกกก ขึ้นไม่หมด เราจึงเดินฝ่าหิมะที่ตกหนักไปด้วยความหิว พอถึง Outlet ฝั่ง West แล้วอาศัยเดินทะลุร้านค้าต่างๆ เดินทางเชื่อมระหว่างตึก(Outdoor) ไปที่โซนร้านอาหาร มีทั้งเป็น Foodcourt (เปิด 10.00 am -7.00 pm) และเป็นร้านอาหารบางร้านอาจจะปิดช้า พอกินอาหารเสร็จ มารอรถบัสรถเต็มอีก คนเพียบ รออยู่ 2-3 คัน คือบางคันบอกไม่ไป บางคันไปแต่อ้อม ถ้าไม่อยากยืนหนาว แนะนำให้ขึ้นรถไปยืนอุ่นๆ ดีกว่าค่ะ
ลงรถบัสที่ป้ายที่ใกล้ Cottage ที่สุดแล้วเดินคลำหาทางกลับบ้าน มีความผจญภัย เพราะหิมะตกหนักสุดๆ มองทางแทบไม่เห็น
ถึงบ้านแล้ว อุ่นสบาย ไม่อยากจะขยับตัวไปไหนเลยค่ะ ด้านในบ้าน แบ่งออกเป็น 2 ห้องนอน ห้องละ 3 เตียงขนาดเท่ากัน มี 2 ห้องน้ำแยกคนละฝั่ง 1 สุขา(อยู่ตรงกลางในโซนห้องนั่งเล่น)หน้าบ้านมองออกไป ข้างนอกต่ำ -10 C ถึงวิวตอนกลางคืนนี่วังเวง เงียบสงัดมาก แต่ก็ได้บรรยากาศแปลกใหม่ พอตื่นเช้ามาเจอหิมะขาวโพลน บรรยากาศกระท่อมกลางป่า ฟรุ้งฟริ้งสุดๆ ก้าวขาออกจากบ้านไป ได้เล่นหิมะเลยค่ะ (นี่คือข้อดีของการอยู่ cottage เป็นหลังๆ)
โฉมหน้าบ้านของเรา…ทะด๊า กลางป่าเขาลำเนาไพร ถนนหายไป
ถ่ายหน้าบ้านตอนเช้า
เราสามารถโทรหา Bell Service เพื่อเรียกรถมารับถึงหน้าบ้านได้ แต่ว่าช่วงเวลาเช้า แขกทุกคนคงเรียกกันเยอะ บางคนเช็คเอ้าท์ ต้องขนกระเป๋าไปด้วยอีก เจ้าหน้าที่บอกว่าเราต้องรอรถ 30 นาที ด้วยความขี้เกียจรอ จึงเดินออกมาขึ้นบัสไปกินข้าวเช้าแทน โหนรถเมล์ ออกกำลังกายตอนเช้า จริงๆแล้ว ระยะทางไปยังที่ต่างๆ ของรีสอร์ท ถ้าจะเดินก็พอเดินได้ แต่หนาวมากๆ เก็บแรงไว้ดีกว่าค่ะ
จากหน้าบ้าน เดินมาถนนเส้นที่รถบัสวิ่งผ่านค่ะ แนวต้นไม้ ถนนแคบๆ(กว่าถนนหน้าบ้าน) นี่แหละ ที่รถบัสวิ่ง มีใครสังเกตเห็นป้ายรถเมล์ไม๊คะ? สีขาวๆ อยู่หลังคบไฟถนน ตรงต้นไม้ ที่รถใช้เวลานานในการวิ่งเพราะต้องลุยหิมะมาแบบนี้แหละ
วิวตอนนั่งรถกินอาหารเช้า
เราเลือกห้องอาหารญี่ปุ่นค่ะ เพราะอยากกินข้าวสวยร้อนๆ มีเมนูให้เลือก 2 เมนู แซลมอน หรือ ปลาทู ข้าวต้ม หรือข้าวสวย อร่อยแบบไม่ผิดหวัง
กินข้าวเช้าที่ตึก West เสร็จ เตรียมตัวไปออกกำลังกายเล่นสกีกันจ้า
ลานเด็กฝั่ง West (ปิดอย่างวันธรรมดา)สามารถเดินทางเชื่อมในตึก West ได้เลย แต่ฝั่งนี้จะแทบไม่มีลานฝึก หรือไรมากนัก
ลานฝั่ง East โล่ง กว้าง Prince Trail /East High Speed Lift
นี่ด้านซ้ายก็จะมี slope เช่นกัน กระต๊อบน้ำตาลที่เห็นไกลๆ นั่น คือ รร. สอนสกีเด็ก Pandaruman Kids Ski School ค่ะ ไปติดต่อได้ มีอุปกรณ์ต่างๆ ขายด้วย แต่ว่าจะไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ ถ้ายังไง หาซื้อไปเองจะดีกว่า (ที่ Outlet ก็มีขายค่ะ แบบมีให้เลือกเยอะแยะมากมาย ความเห็นส่วนตัวคิดว่าไม่ถูก อย่างรองเท้าลุยหิมะเด็ก คู่นึงถูกสุดที่เจอที่ Outlet ประมาณ 3000 เยน++ แต่ไปเจอที่ Aeon Narita แบบน่ารักกว่า ราคาถูกกว่าด้วยค่ะ สำหรับคนที่ไม่ค่อยได้เที่ยวบ่อย เด็กโตไว ไม่ต้องซื้อแพงหรอก บูทใส่แป๊บเดียว หยิบมาใส่อีกที ยัดไม่ลงซะแล้ว
East Kids Snow Park @ Prince Karuizawa Hotel คึกคัก คนเยอะ มีของเล่นเด็กเพียบค่ะ ก่อนจะเข้า เสียค่าเข้าคนละ 1300 เยน ห่วงยางเล่นฟรี Sled เสียเพิ่มอันละ 500 เยน เล่นได้ทั้งวัน
เลื่อนหิมะ มีทั้งใหญ่และเล็ก เลือกได้ตามชอบจ้า
นี่คือถ่ายจากเนินมุมสูงๆ ที่เห็นเหมือนโกลฟุตบอลนั่นคือ ทางลาดเล่น เลื่อนหิมะ และห่วงยาง (จริงๆ ลาดเยอะเหมือนกันนะ ถ่ายมาเหมือนทางราบ เพราะขาวโพลนไปหมด)
ห่วงยางต้องลากขึ้นเนินมาเอง หนุกมากๆ กรี๊ดดังลั่น 555
Sled มีทางเลื่อนขึ้นให้ค่ะ ประหยัดแรงไปอีกนิด
สำหรับใครที่ไปเที่ยวญี่ปุ่น บินลงโตเกียวในช่วงฤดูหนาว เราว่า ลองเผื่อเวลาสำหรับทริปไปเปลี่ยนบรรยากาศ เที่ยวสกีรีสอร์ท แช่ออนเซน สัก 3 วัน 2 คืน จะชีลมาก ถ้าเวลาน้อย 2 วัน 1 คืนก็พอโอเคค่ะ เด็กๆ ได้เล่นหิมะกันให้จุใจ