วันนี้เราจะพาเที่ยวเมือง Jeonju ซึ่งเมืองเล็กๆ อยู่ไม่ไกลจากกรุงโซลมากนัก  เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์มากมาย แถมยังเป็นโลเคชั่นถ่ายซีรีย์หลายๆ เรื่อง ต้องบอกเลยว่าคอซีรีย์เกาหลี โดยเฉพาะ ซีรีย์ย้อนยุคห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงเลยค่ะ .

Jeonju เป็นเมืองเก่าที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรฮูเบคเจ (후백제) และเป็นบ้านเกิดของต้นตระกูลของราชวงศ์โชซอน (ตระกูล อี /ลี)   ยังคงเก็บรักษาบ้านโบราณ Hanok แบบเกาหลี เอาไว้ในสภาพดี แถมยังมีอาหารอร่อยขึ้นชื่อ อย่างเช่น บิบิมบับ (ข้าวยำเกาหลี) และอื่นๆอีกมากมาย…..
ตอนเราไปเที่ยว ได้ไปเดินชมพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ได้เห็นภาพวาดของพระราชาแต่ละยุคสมัย พระเจ้าแทโจ  พระเจ้าจยองจง พระเจ้าแทจง และอื่นๆอีกมากมาย ตอนไปนั้นเพิ่งดู Moon Lover จบไปไม่นาน… ภาพเหมือนที่เห็นในพิพิธภัณฑ์ทุกคน อยู่ในซีรีย์เกาหลีหมดเลย องค์ชาย 4 องค์ชาย 8  5555

ระยะเวลาการเที่ยว : สามารถไปกลับ ใน 1 วันได้ เก็บเฉพาะไฮไลท์ แต่จะค่อนข้างเหนื่อย  เห็นมี ​ Day trip ซื้อเป็นแพคเกจทัวร์ไปเช้าเย็นกลับจากในเน็ทบ้าง แต่ถ้าจะให้ดี อย่างน้อยๆ ถ้าอยากเที่ยวแบบไปถึงจริงๆ  เดินเที่ยวชมบ้านเมือง กินของอร่อยๆ แบบไม่ต้องรีบ แนะนำว่า  2 วัน 1 คืน เป็นอย่างน้อย หากมีเวลา  3 วัน 2 คืน กำลังดี สำหรับสายชีล
ย่านเมืองเก่านั้น กระจุกตัวอยู่ในระยะ 1-2 ตารางกิโลเมตร สามารถเดินเล่นได้เป็นวันๆ เพราะมีร้านเล็กๆ น้อยๆ ตรอกซอกซอยเล็กๆ ให้เดินเที่ยวเล่นได้ค่ะ

วิธีการเดินทาง : เดินทางจาก Seoul ด้วยรถทัวร์ ขึ้นจาก Seoul Express Bus Terminal สะดวกดีค่ะ ไม่ต้องจองล่วงหน้า เพราะมีรถออกถี่มาก ทั้งขาไปและขากลับ ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง หรือถ้านั่งรถไฟ มีพาสอยู่แล้ว จะนั่ง  KTX ก็ได้ (แต่ซื้อเป็นเที่ยวๆ ราคาแพงกว่ารถทัวร์ 2 เท่า ใช้เวลาประมาณ 2.20 ชม. ต่างกันนิดเดียวเอง )

ราคารถทัวร์ ต่อเที่ยว ~ 18,700 วอน / เด็ก 9400 วอน
ราคา KTX ต่อเที่ยว ~ 30,000 วอน (Daypass ~ 2000 B.  3-day pass ~3000 B.)
รถทัวร์มีรอบให้เลือกค่อนข้างถี่ สามารถเลือกขึ้นได้จาก Seoul Express  Terminal
ลองอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจากบล็อคนี้ : https://www.boboandchichi.com/2014/02/how-to-get-to-jeonju-from-seoul/

จาก Jeonju Bus Terminal สามารถนั่งรถเมล์ก็ได้แต่ทริปเรามี 4 คน+ กระเป๋าพร้อมมาค้าง 2 คืน จึงใช้บริการแทกซี่จากหน้าสถานี เข้าไปที่พัก ซึ่งตรงเมืองเก่านั้น รถเข้าไปได้แค่รอบนอก ที่เป็นถนนใหญ่ค่ะ

ไฮไลท์ของ Jeonju ของเราที่ประทับใจ

ประสบการณ์นอนบ้านโบราณ Hanok

โหย ใฝ่ฝันมาก ตั้งแต่ดูซีรีย์ เรื่อง Personal Taste ที่ลีมินโฮเล่น เป็นสถาปนิก แล้วนางเอก มีบ้านที่เป็น Hanok  (ซึ่งอันนั้นอยู่ที่ Bukchon Hanok  ในโซล) เราก็แบบ คิดไว้ว่า จะต้องมีสักครั้งที่ลองไปนอนบ้านเก่าๆ แบบนี้บ้าง ซึมซับบรรยากาศ  ถ้านอนใน Seoul ราคาค่อนข้างแพง และเดินทางลำบาก  เมื่อมีโอกาสเลยจัดเต็ม นอนที่ Jeonju 2 คืนเลยค่ะ

Hanok ใน Jeonju สามารถของได้ผ่านเว็บไซต์จองโรงแรมทั่วไป ราคามีหลายเรทมาก เอาที่ชอบ ที่ถูกใจละกันนะคะ ถ้าอยู่ในโซนเมืองเก่า โลเคชั่นเดินหากันได้เกือบหมด อยู่ที่สภาพบ้านว่า เค้าปรับปรุงใหม่ หรือดูแลให้อยู่ในสภาพดีแค่ไหน ส่วนมากที่เดินผ่านๆ ก็เห็นดูแลดีอยู่นะ บ้านที่เราพัก ชื่อว่า Gaeunchae จองใน Booking.com ทั่วไปนี่แหละ เจ้าของบ้านน่ารัก ให้คำแนะนำและข้อมูลต่างๆ ดีมาก สงสัยอะไร แชทถามผ่านไลน์ได้ตลอด เช่น หาร้านอาหารอร่อยๆ หรืออยากแต่งชุดฮันบกเดินเที่ยว เค้าก็มีแนะนำร้านให้แล้วบอกว่า พักที่นี่นะ ได้ส่วนลดเพิ่มเติมอีก  ที่นี่ถือว่าโลเคชั่นดีมากๆ ค่ะ ไม่ไกลจากถนนใหญ่ หาไม่ยาก ตกคืนละประมาณ 2750 บาท สำหรับ ผู้ใหญ่ 2 เด็ก 2 คน เหมือนเค้าลดราคาให้เด็กด้วยน่ะ)

ห้องพักเรานอนกัน 4 คนค่ะ มี 2 ชั้น ห้องน้ำในตัว Renovate ใหม่ ทันสมัยเลย มีตู้เย็น ทีวี . (ที่พักบางที่ เราดูในรูปแล้วเหมือนบ้านอาจุมม่าอะ เลยไม่เอา 555)  เด็กๆ สนุกมาก ได้ปีนขึ้นปีนลง  เห็นบ้านเก่าๆ แบบนี้ไม่ต้องกลัวว่าจะหนาวนะคะ พื้นที่ฮีทเตอร์ ส่วนด้านบน มีผ้าห่มไฟฟ้าให้ ดีงามมาก

อันดับต่อมาของความประทับใจ คือ บรรยากาศและวิว

  • จุดชมที่ประทับใจคือ วิวจาก Omokdae ซึ่งเป็นเนินเขาเตี้ยๆ เป็นจุดชมวิว ที่มองไปเห็นบรรยากาศทั่วทั้งเมืองค่ะ
  • วิวจากร้านกาแฟ ตรงบริเวณใกล้ๆ Omokdae อยู่ตรงหัวมุมแยกพอดี ด้านบนชั้น 4-5 จะเป็นคาเฟ่ ที่มองเห็นวิวทั้งเมืองเช่นกัน บรรยากาศดีมาก
  • บรรยากาศตามตรอกซอกซอยต่างๆ ร้านค้า ร้านขายของที่ระลึก คือน่ารักไปหมด
    ตรงถนนเส้นหลัก ที่ผ่ากลาง ชื่อถนน อึนเฮง (Eunhaeng-ro) ตัดกับถนน Taejo (Taejo – ro)  เป็นเส้นหลักที่คึกคัก เดินสนุกดีค่ะ
  • Jaman Mural Village  เป็นหมู่บ้านบนเนินเขาที่อยู่ฝั่งตรงข้าม Omokdae เดินไปได้ค่ะ ไต่เนินพอแฮ่กๆ มีภาพเพ้นท์ตามผนัง กำแพงต่างๆ น่ารักดี มีร้านกาแฟอยู่ด้านบน แต่คิดว่าเปิดเฉพาะ เสาร์อาทิตย์นะ
  • Deokjin Park เป็นที่ที่ควรมาในหน้าร้อนจะสวยมาก ช่วงที่เราไปตอนเดือนมีนา บึงดอกบัวแห้งแล้ง แต่ก็สวย+หนาวไปอีกแบบ

ประสบการณ์สุดพีคของ Jeonju คือ ของกินอร่อย อร่อยมากก อร่อยโคดๆ

เป็นเมืองที่ร้านอาหารเยอะมากค่ะ แล้วแต่ละร้าน น่ากินมาก เพื่อนแนะนำว่า มีร้านนึง ให้เครื่องเคียง 30 อย่าง โอย ตายๆ กินเครื่องเคียงอิ่มไม่ต้องสั่งอาหารแล้วไม๊… แต่เราไม่ได้ไปร้านนั้น ไปอีกร้านนึง เดินไปไม่ไกลจาก ที่พัก ข้ามถนนใหญ่ไป ร้านนี้คนเยอะ ต่อคิวพอกรุบกริบ  ชื่อ Hanul Table เครื่องเคียงอลังการ ไม่น้อยหน้า แต่บังคับสั่งทุกคนนะคะ จะมาแบบ สั่งอย่างเดียวแล้วพกเพื่อนไปอีก 3 คนไม่ได้ ขนาดเด็กๆ ก็ไม่เว้น

ร้านต่อมา ชื่อ Han Kuk Jib (한국집) เจ้าของบ้านแนะนำให้ไปกิน  คนเยอะ อร่อยเช่นกันค่ะ


ส่วนร้านอื่นๆ ที่ไปกิน อร่อยดีงามตามท้องเรื่อง ทุกร้าน พวกแฮมเบิร์ก นี่ประทับใจมาก

และที่ขาดไม่ได้ คือ….. โมจู เป็น Rice Wine ประจำท้องถิ่น  มีสีน้ำตาลเข้ม เพราะผสมน้ำตาลทรายแดงหมัก (ถ้ามักกอลลี ก็จะขาวขุ่นเนอะ อันนี้รสชาติคล้ายมักกอลลี แต่หวาน นัวกว่า เราว่าใส่สมุนไพร ใส่พวกพุทรา หรือไรลงไปด้วยแน่เลย นัวมาก หร่อย เสียดายที่ไม่ได้ซื้อกลับ

สิ่งนึงที่ต้องทำ เมื่อมา Jeonju คือ เช่าชุดฮันบกใส่เดินเล่น รับรองว่าจะไม่รู้สึกแปลกแยก ลิเก ใดๆ เพราะทุกคนเค้าใส่กัน โดยเฉพาะวัยรุ่น   ใครไม่ใส่นี่อาจจะแปลกกว่า 55555
ราคาเช่าชุดแล้วแต่ร้าน แล้วแต่แบบ ลองเดินๆ สำรวจดูได้ค่ะ สนนราคา 3 ชม. ประมาณ 10,000 วอน
อากาชิ (นายน้อย/คุณหนู)ของอิชั้นก็เดินเฉิดฉาย สะบัดกระโปรงพรึบพรับ ชม เมือง สนุกสนานกันไป

สุดท้ายได้มาเรียนรู้ประวัติศาสตร์เกาหลี ในแบบที่ปกติ เราคงได้แต่เซริชอ่านในกูเกิ้ล แต่อันนี้ได้มาเห็นกับตา ฟินไปอีก ไม่ว่าจะเป็น Gyeonggijeon และ Royal Portrait Museum

Jeonju National Museum
 

บิ้วมาขนาดนี้แล้ว อย่าลืมเพิ่ม Jeonju เข้าไปในแพลนเที่ยวเกาหลี รอบหน้านะคะ


แนะนำ 10 ที่ไม่ควรพลาด เมื่อขับรถเที่ยว Jeju

Comments

comments