NASA  A Human Adventure

วันนี้ แอบแวะมา รีวิวนิทรรศการ Nasa A Human Adventure in Bangkok นิทรรศการแห่งอวกาศที่ใหญ่ที่สุดในโลกแบบเบาๆ….

NASA : A Human Adventure เป็น ​Exhibition เคลื่อนที่ ที่จัดแสดง ผลิตขึ้นโดย  John Nurminen Events โดย ความร่วมมือของ  NASA, the Kansas Cosmosphere และ Space Center และ the U.S. Space and Rocket Center    การจัดแสดงครั้งนี้ ก็มีสปอนเซอร์ ต่างๆ ร่วมกันลงขัน นำนิทรรศการนี้เข้ามาจัดแสดงในไทย  ซึ่ง ถือเป็นครั้งแรกในภูมิภาค SEA และ เป็นนิมิตรหมายอันดีของชาติ ที่ เริ่มตะหนักถึงการเรียนรู้ของคนในประเทศ ว่ามีความสำคัญชนาดไหน

สถานที่ : Bangkok Convention Center ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว

เวลา :  ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2557 – 1 กุมภาพันธ์ 2558

โดย ภายในนิทรรศการได้แบ่งออกเป็น 4 ส่วน ดังนี้ (ก๊อบจาก presskit เมืองไทยประกันชีวิต)

1.ส่วนแสดงเทคโนโลยีอวกาศ
2.ส่วนเครื่องเล่น
3.ส่วนขายของที่ระลึก
4.Space Café

มีการนำเสนอในส่วนของเทคโนโลยีอวกาศ โดยแบ่งออกเป็น 7 โซน ดังนี้
โซนที่ 1 Gantry โซนทางเข้า โดยเลียนแบบทางเข้าสู่จรวด Saturn V อันทรงพลังที่ไปยังดวงจันทร์

โซนที่ 2 Dreamers เป็นโซนที่กล่าวถึงความฝันของมนุษย์ที่ต้องการศึกษาท้องฟ้าและดาราศาสตร์ และ ทุ่มเทชีวิตเพื่อแสวงหาวิธีการต่าง ๆ ในการสร้างฝันให้เป็นจริง กระทั่งมนุษย์สามารถเอาชนะแรงโน้มถ่วงด้วยการสร้างนวัตกรรมและออกไปสู่นอกโลกและเดินทางไปถึงดวงจันทร์ได้สำเร็จ

โซนที่ 3 Go Fever กล่าวถึงการที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต้องเดินทางไปพร้อมกับบริบททางสังคมและประวัติศาสตร์ โดยในที่นี้ โครงการอวกาศเคยกลายมาเป็นประเด็นที่ประเทศยักษ์ใหญ่ของโลก อย่าง สหรัฐอเมริกา และ สหภาพโซเวียต เคยใช้มาเป็นประเด็นในการแข่งขันเพื่อแสดงให้โลกเห็นว่าใครก้าวหน้ามากกว่ากัน

โซนที่ 4 Pioneers กล่าวถึง การที่ผู้บุกเบิกค้นคิดนวัตกรรมครั้งประวัติศาสตร์ในการสร้างจรวดที่ทรงพลังที่สุดของโลกกระทั่งปัจจุบัน นั่นคือ Saturn V ที่สามารถเดินทางไปดวงจันทร์ได้สำเร็จ

โซนที่ 5 Endurance กล่าวถึงความมานะอดทนและนวัตกรรมการดำรงชีวิตของมนุษย์อวกาศ ตั้งแต่ การแต่งตัว อาหารการกิน และ ชีวิตประจำวันทั่วไป

โซนที่ 6 Innovation กล่าวถึง นวัตกรรมในอวกาศและโครงการสำรวจอวกาศต่าง ๆ รวมถึงนวัตกรรมอวกาศที่นำมาใช้ในชีวิตประจำวันทั่วไป

โซนที่ 7 Thai Innovation เป็นโซนที่รวบรวมนวัตกรรมทางด้านวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวกับอวกาศของประเทศไทยมาจัดแสดง โดยนิทรรศการในส่วนนี้ ได้รับความร่วมมือจาก ไทยคมและสำนักงานเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือ GISTDA ที่จะนำอุปกรณ์ความก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์ของประเทศมาจัดแสดงร่วมอีกด้วย

 

โครงการอวกาศ ที่ถูกพูดถึงในนิทรรศการ มีทั้งหมด 3 โครงการด้วยกัน คือ Mecury , Apollo 13  , Gemini

It’s a must  เลย คือ ควร ใช้ Audio Guide ค่ะ…มี Ticket Office ตรงทางเข้า ให้แสดงบัตรเพื่อรับ….แต่ตอนเราไปต่อแถว พนักงานบอกว่า ถ้าไม่ใช้ก็เข้าได้เลย ซึ่ง เรามโนคิดเอาเองว่า สงสัยจัดแสดงเป็นภาษาอังกฤษ  แล้ว ใช้ Audio Guide  แปลอังกฤษเป็นไทย  มีเด็กๆ เข้าแถวรอรับกันเต็ม  เราพอฟังรู้เรื่อง ไม่อยากต่อแถวนาน เลยเดินเข้าไปเลย….ปรากฏว่า….ข้างใน เงียบมากจร้าาา..มีบรรยายบ้าง แต่น้อยมาก มีทีวี เป็นจุดๆ พร้อมป้าย  2 ภาษา ไทยและอังกฤษ  ถ้ามี Audio Guide จะบรรเทิงกว่าเยอะ แต่ก็นั่นแหละ ถ้าเด็กเล็กๆ ผู้ปกครองอาจจะต้องคอยกดให้ค่ะ เพราะจะมีป้ายบอกว่า จุดนั้น ต้องฟังอะไร  (ยังไม่ Hitech  ขนาดเดินผ่านแล้ว เครื่องเล่น detect บรรยายเองแบบ ต่างประเทศ)

มาถึงจุดนี้ คือ สัมภาระใหญ่ๆ ให้เอาไปฝากไว้ ก่อนทางเข้าจะมีเค้าเตอร์รับฝาก  อาหารและน้ำดื่ม วางไว้ด้านหน้า
Audio Guide รับที่ Ticket Office ก่อนจุดนี้ค่ะ

ห้องกักบริเวณ…ก่อนเข้าไปในห้องเลียนแบบทางเข้ายาน Saturn V ไปยังดวงจันทร์   (จริงๆ เป็นห้องให้ดูวีดีโอก่อนเข้างาน  จุได้ที่ละ 30 คน  ถ้าคนมางานเยอะๆ อาจจะต้องรอแถวนี้นาน)

โซนที่ 2 Dreamers เป็นโซนที่กล่าวถึงความฝันของมนุษย์ที่ต้องการศึกษาท้องฟ้าและดาราศาสตร์ และ ทุ่มเทชีวิตเพื่อแสวงหาวิธีการต่าง ๆ ในการสร้างฝันให้เป็นจริง กระทั่งมนุษย์สามารถเอาชนะแรงโน้มถ่วงด้วยการสร้างนวัตกรรมและออกไปสู่นอกโลกและเดินทางไปถึงดวงจันทร์ได้สำเร็จ

คือไม่มี Audio Guide เลยไม่รู้เลยแถวนี้เกี่ยวกะอะไร มืดมากๆ อ่านก็มองไม่ค่อยจะเห็น  T_T

โซนที่ 3 Go Fever กล่าวถึงการที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต้องเดินทางไปพร้อมกับบริบททางสังคมและประวัติศาสตร์ โดยในที่นี้ โครงการอวกาศเคยกลายมาเป็นประเด็นที่ประเทศยักษ์ใหญ่ของโลก อย่าง สหรัฐอเมริกา และ สหภาพโซเวียต เคยใช้มาเป็นประเด็นในการแข่งขันเพื่อแสดงให้โลกเห็นว่าใครก้าวหน้ามากกว่ากัน

 

โซนที่ 4 Pioneers กล่าวถึง การที่ผู้บุกเบิกค้นคิดนวัตกรรมครั้งประวัติศาสตร์ในการสร้างจรวดที่ทรงพลังที่สุดของโลกกระทั่งปัจจุบัน นั่นคือ Saturn V ที่สามารถเดินทางไปดวงจันทร์ได้สำเร็จ

โซนที่ 5 Endurance กล่าวถึงความมานะอดทนและนวัตกรรมการดำรงชีวิตของมนุษย์อวกาศ ตั้งแต่ การแต่งตัว อาหารการกิน และ ชีวิตประจำวันทั่วไป

กล้องที่นักบินเอากาศใช้

ฟิลม์สไลด์ ภาพถ่ายจากดวงจันทร์

 

โซนที่ 6 Innovation กล่าวถึง นวัตกรรมในอวกาศและโครงการสำรวจอวกาศต่าง ๆ รวมถึงนวัตกรรมอวกาศที่นำมาใช้ในชีวิตประจำวันทั่วไป

โซนที่ 7 Thai Innovation เป็นโซนที่รวบรวมนวัตกรรมทางด้านวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวกับอวกาศของประเทศไทยมาจัดแสดง โดยนิทรรศการในส่วนนี้ ได้รับความร่วมมือจาก ไทยคมและสำนักงานเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือ GISTDA ที่จะนำอุปกรณ์ความก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์ของประเทศมาจัดแสดงร่วมอีกด้วย

ออกมาโซนนี้แล้วไม่สามารถเดินย้อนกลับเข้าไปฝั่งจัดแสดง ของ  Nasa  ได้แล้วค่ะ

เครื่องหมุน ทดสอบแรง G ค่ะ…ขึ้นได้ทีละ 4 คน คนละ 250 บาท…สูงสุดอยู่ที่ 2G ลองเล่นกันมาแระ

ลองปฏิบัติภาระกิจที่สภาวะไร้น้ำหนัก 150 บาท  กองเชียร์ เชียร์จ๊างงง…คนทำบอกว่า…ต้องมาลองเองโว้ยย ถ้าทำได้เป็นนักบินอวกาศไปแร้ว มันยากกก 5555555555

ร้านขายของที่ระลึก……..ชุดน่ารักมาก แต่ราคาก็……..ตามนั้น

Note : ถ้าหากจะพาเด็กเล็กๆ ไปดู…..คิดว่าเด็ก 2-3 ปี ดูไม่รู้เรื่องนะคะ  เนื่องจากว่า เป็นนิทรรศการ จัดแสดง เดินดู พร้อม Audio Guide ควรเป็นเด็กที่เริ่มโตหน่อย มีสมาธิ พอประมาณ อ่านเองได้จะเยี่ยมมาก

เราไม่ได้รับเอกสาร แผนผัง โปรชัวร์ บรีฟอะไรใดๆ ก่อนเข้างาน เลยเข้าไปแบบมึนมากกกกก  ไม่รู้โบรชัวร์ พิมพ์ยังไม่เสร็จหรืออะไรค่ะ
ระหว่างทาง มี  rubber stamp น่ารักๆ ให้ ปั้มเล่น…แต่ว่า….ที่เราเห็นนะคะ สมุด stamp ไปขายตรงทางออก เล่มละ 50  บาท รึตรงทางเข้ามีแต่เราไม่เห็น ก็ไม่รู้ค่ะ   (แต่คือ แค่พ้นโซน space station มาแล้ว เค้าไม่ให้เดินย้อนกลับเข้าไป  stamp แล้วอะ)

ข้อห้ามเบื้องต้น

  • ห้ามนำน้ำ หรืออาหารเข้าไปด้านใน
  • ห้ามใช้แฟลขถ่ายรูป

พ่อแม่ควรทำการบ้าน และ Build เด็กๆ ไปก่อนพอสมควร ให้เกิดความอยากรู้ อยากเห็น สนใจ ก่อนจะไปดูของจริง เพราะคิดว่าเรื่องเหล่านี้ ค่อนข้างไกลตัว และใหม่มากๆ สำหรับเด็กไทย

Website ที่เกี่ยวข้อง

http://spaceproject.bectero.com/inside.php

http://www.thaiticketmajor.com/performance/performance-detail.php?sid=2417&la=en

คลิปแนะนำ

Comments

comments